เกมการแข่งขันฟุตบอลโลก ระหว่างทีมที่ไม่เด่นดัง และเล่นบอลแบบเรื่อยๆมาเรียงๆ แต่ทว่าทำงานดีมีประสิทธิภาพทั้งคู่แบบ โครเอเชีย และเดนมาร์ค ปีนี้ ต้องมาเจอกัน ทำให้อาจจะเป็นคู่ที่ไม่มีคนติดตามมากนัก ในแง่ของการดูยอดสตาร์
นักเตะมาเล่นกัน แต่ถ้าจะพูดกันถึงด้านแทคติคแล้ว เกมนี้ต้องถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวสำหรับ คุณภาพของการวางแผน และแก้เกมอย่างดีของทั้งสองทีม โครเอเชียนั้น เค้ารอบมาได้ด้วยสถิติสวยมากชนะรวดทุกเกม 9 แต้มเต็ม ยิงได้มากมาย และแต่ละลูกก็สวยๆทั้งนั้นด้วย ที่สำคัญพวกเค้ามีการจับตามองจากทั้งโลกว่า ชุดนี้จะไปได้ไกลแน่นอน เพราะมีทั้ง ลูก้าโมดริช ที่กำลังเล่นอย่างมั่นใจ และมีอิวาน ราคิติช ที่กำลังช่วยประสานงานกันเหมือนกับการเล่นในสีเสื้อบาร์ซ่าเลย แถมกองหลังก็แน่นพอสมควร ส่วนเดนมาร์กนั้นพวกเค้าก็เล่นแบบเรื่อยๆนิ่งๆ แต่แน่นอน ไม่เสียประตูง่ายๆ แต่ก็ยิงได้บ้างรักษาผลคะแนนมากกว่า เกมนี้จะได้แสดงให้โลกเห็นว่าพวกเค้าเป็นของจริงหรือไม่ เกมจะเป็นอย่างไรให้เราไปดูรีวิวกันเลยครับ
วิเคราะห์แทคติก
ในเกมนี้ โครเอเชียจัดทัพเต็มสูบด้วยแผนการเล่น 4-2-3-1 ยอดนิยม เน้นเกมรับแน่น แล้วเน้นเกมบุกทีหลัง แต่ต้องการจ่ายบอล ผ่านบอลกันแบบแน่นอนด้วย การใช้กองกลางทั้ง 3 มีเพียงความสมดุลรับรุกดีมาก ทั้ง ราคิติช กับ โมดริช ที่สำคัญกองหน้า มีความคมด้วย มันซูคิช ที่เล่นได้ทั้งทางกราบซ้ายและหน้าเป้า ส่วนทางด้าน เดนมาร์คนั้น พวกเค้าใช้ชุดเดิมเหมือนกันในรอบนี้ มีกองกลางตัวทำเกมอย่าง เอริคเซ่น คอยทำการป้อนบอลและจ่ายบอลหาจังหวะเข้าทำอยู่หลังกองหน้าอย่าง จอร์เกนเซ่น ที่เล่นบทหน้าเป้า เบอร์ 9 คนเดียว ตั้งแต่เกมแรก และที่เด่นกว่าคือการมีวิงแบ็คสองข้างซ้ายขวาคอยเติมเกมรุกเสมอๆบ่อยๆ รอบนี้ก็เช่นกัน เมื่อเปิดเกมมา ทั้งสองทีมกำลังหยั่งเชิงกันอยู่ และไม่ผลีผลามทำให้ไม่มีใครบุกมากกว่าใคร แต่เดนมาร์คที่เกมนี้เตรียมตัวมาดีมาก มีอาวุธใหม่คือลูกทุ่มไกล เวลาบอลออกข้าง และก็ได้ผลในที่สุดเมื่อ ทุ่มไกลจากด้านขวา บอลตกไปตกมาออกด้านซ้ายเป็นวิงแบ็คซ้ายผิวสี เติมมายิงแบบขลุกขลิกๆ ฟลุ้คนิดหน่อยเข้าไปแบบงงๆ ออกนำโครเอเชียไปได้แบบที่ตกใจคนทั้งโลกเหมือนกัน แต่ว่าไม่นานโครเอเชียก็กลับเข้าสู่เกมได้ และการวางแผนให้ มาริโอ มันซูคิช อยู่ทางกราบซ้ายทั้งๆที่ถนัดเท้าขวา คอยลากขึ้นลง และเติมเกมรุก กึ่งปีก แต่ก็กึ่งกองหน้าด้านข้างก็ได้ผล เมื่อใช้เวลาไม่นาน พวกเค้าบุกหนักและเดนมาร์คสกัดบอลไม่ดีโดนกันเอง มาตกเข้าทางของเค้า วอลเลย์แบบสุดสวยด้วยเท้าขวาเข้าไปจนเสมอ หลังจากนั้นไม่มีใครกล้าบุกมากจึงรับหนัก จนไปถงช่วงทดเวลาเจ็บที่ โครเอเชียได้จุดโทษ แต่โมดริชกลับยิงไปโดนชไมเคิ่ลเซฟแบบฮีโร่ ทำให้ต่อเวลาทำอะไรกันไม่ได้ต้องยิงจุดโทษ เกมนี้นายประตูทั้งสองทีมเป็นฮีโร่ผลัดกันเซฟไปมาทั้งซูบาร์ซิชกับชไมเคิ่ลไม่ยอมกัน จนหัวใจแทบวายสุดท้ายเป็น โครเอชียชนะเข้ารอบไปแบบน่าเชียร์ต่อ