เกมการแข่งขันระหว่างยอดทีมที่คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครั้งล่าสุดฐานแชมป์เก่าในปี 2014 เมื่อสี่ปีที่แล้ว และเป็นทีมหัวแถวของโลกที่มีการเล่นคงเส้นคงวามากที่สุด ดังเห็นได้จากการเข้าชิงติดต่อกันหลายรายการ และมีนักเตะที่นิ่งและฉลาดอยู่เสมออย่างเยอรมัน จะทำอย่างไรเมื่อเจอกับทีมจากคนละทวีปอย่าง เม็กซิโกที่คนละไสตล์กันเลยทีเดียว ทีมนึงเล่นบอลแบบเป็นระบบและมีประสิทธิภาพเหมือนเครื่องจักร แต่อีกทีมหนึ่งมีทั้งความเร็วจี๊ดจ๊าดและเทคนิคจากอเมริกาใต้ไม่เป็นรองแซมบ้าเลยด้วยซ้ำ นี่จึงนับว่าเป็นเกมที่น่าสนใจ และต้องมีการวางแผนและแทคติคลึกซึ้งแน่นอน ที่จริงแล้วผลการแข่งขันที่จบลงอย่างช็อคคนทั้งโลกมากที่สุดในไม่กี่วันแรกคงเป็นเกมนี้ ที่เม็กซิโกเอาชนะแชมป์เก่าไปได้ 1-0 อย่างสวยงามและรูปเกมเรียกว่าเหนือกว่าทั้งด้านนักเตะ แผนการและจังหวะด้วย เกมจะเป็นอย่างไรให้เราไปดูรีวิวกันเลยครับ
วิเคราะห์แทคติก
ในเกมนี้ เยอรมันเรียกได้ว่า เหนือกว่าทั้งตัวกนซือด้วยไม่เพียงแค่นักเตะ เพราะวาโยอาคิม เลิฟ นั้นเป็นจอมเก๋าที่พาทีมได้แชมป์ไม่พอ แต่ยังเข้าชิงและเล่นในทัวมาเม้นที่ใหญ่แบบนี้เหรือเล็กกว่านี้มาแล้วมากมายยาวนานนับสิบปี เค้ายังได้ชื่อว่ามีระเบียบและชาญฉลาดมากๆด้วย ในการดวลสมองกับชาติต่างๆมากมายนั้นเอง กลับกัน คาร์ลอส โอโซริโอ้ ของฝั่งเม็กซิโกเป็นเพียง กุนซื้อมือใหม่ที่เพิ่งจะคุมทีมได้ไม่นานเอง เรียกได้ว่า เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ เค้ากับนักเตะชุดปัจจุบันอย่าง จอมเก๋า กองหลังทั้ง ซัลเชโด้ และ ราฟาเอล มาเกซนั้นเพิ่งจะเล่นด้วยกันอยู่หยกๆเองด้วย ดังนั้น เรียกได้ว่า ประสบการณ์เป็นรองอย่างมากในเกมนี้ แต่ทว่า แม้การเล่นวางแผนของทั้งคู่จะใจตรงกันมาด้วยแผน 4-2-3-1 ยอดนิยมและวางตัวนักเตะคล้ายกันมากก็ตาม เลิฟให้เยอรมันของเค้า มีนักเตะใหม่ และดาวรุ่งลงเล่นผสมเยอะกว่าบอลโลกหนก่อนเยอะหน่อย เช่น ฟูลแบ็คสองข้างไม่มีตำนานอย่าง ลาห์มแล้ว แต่ให้ โจชัว คิมมิชเล่นแบ็คขวาเหมือนในสโมสรเสือใต้แทน และกองหน้าก็ไว้ใจดาวซัลโวใหม่จากลีกเยอรมันอย่างวากเนอร์ด้วย แต่ว่าต้องเรียกว่าผิดหวังทั้งคู่ เพราะว่า โอโซริโอ้ อ่านเกมออกและเตรียมตัวเกือบครึ่งปี ด้วยการศึกษาการเล่นอย่างละเอียด และทราบว่าจุดอ่อนอยู่ที่ 2 คนนี้ เค้าจึงว่าปีความเร็วสูงอย่าง โลซาโน่ ทางซ้ายให้กดดัน และวิ่งสวนกลับทางกราบนี้เป็นหลัก และแผนการสวนกลับเร็วสายฟ้าแลบก็ ได้ผลด้วยความประมาทของเยอรมัน ที่บุกใส่โดยไม่สนใจหลังบ้าน นี่ทำให้เสียประตู ด้วยการสวนกลับและ คิมมิชเองขาดประสบการณ์ไม่ยอมกลับลงมา ปล่อยให้โลซโน่หลุดว่างเข้าไปล็อกยิงใส่อย่างช็อคโลกนั่นเอง เท่านั้นไม่พอแม้แต่กองหลังเค้าก็ให้สัมภาษณ์ว่าเตรียมการป้องกันลูกโหม่งหลักของเยอรมันเบ็ดเสร็จอีกด้วย นับว่าป้องกันแชมป์เลือนลางจริงๆ