เกมการแข่งขันฟุตบอลโลกระหว่างยอดทีมที่เข้ารอบมาฝ่าฟันกันจนถึงรอบ 8 ทีมสุดทายเช่นนี้นั้น ย่อมมีแต่ทีมระดับบิ๊กๆทั้งนั้น และเกมนี้ก็เช่นกัน ฟุตบอลโลก ได้มี 2 ทีมอย่าง ฝรั่งเศสตัวเก็งที่ฉลุยชนิดที่ว่า ยำใหญ่ทีมอื่นมาตลอดทาง และ
แม้แต่รอบก่อนหน้านี้ ก็ยังแสดงความน่ากลัว แถมน่ากลัวกว่าเดิมด้วยซ้ำ นั่นคือการไล่ถล่มทีมฟ้าขาวอาร์เจนมายับเยิน แถมจัดการส่งลิโอเนล เมสซี่ ยอดทีมและยอดสตาร์หมายเลขหนึ่งของฟุตบอลโลก กลับบ้านเก่าด้วย แต่ก็ต้องมาเจอกับทีมระดับโตด้วยกันอย่าง อุรุกวัย ที่ไม่ธรรมดาในบอลโลกหนนี้ เนื่องจากพวกเค้าแสดงการเล่นที่ยอดเยี่ยมในรอบแรก เข้ารอบมาและเมื่อเจอรอบต่อไป พวกเค้าเสียเปรียบเพราะว่าเจอกับ ยอดทีมโปรตุเกสที่ไม่ธรรมดา และบังเอิญอีกพวกเค้ามียอดสตาร์หมายเลขหนึ่งเหมือนกันอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่ก็เหมือนกับฝรั่งเศส อุรุกวัยจัดการส่งทีมของโรนัลโดกลับบ้านเก่าเช่นกัน นี่ทำให้สมเหตุสมผลมากที่ทั้ง สองทีมจะเข้ารอบและแม้ต้องมาเจอกันก่อนเวลาอันควรในรอบนี้ แต่ก็จะเป็นเกมที่น่าสนใจและมีหลายอย่างให้พูดถึงแน่นอน ผลงานของการเจอกันคู่ที่น่าจะเป็นนัดชิงได้เลย จะเป็นอย่างไร ให้เราไปดูรีวิวกันเลยครับ
วิเคราะห์แทคติก
ในเกมนี้ เพื่อจะกรุยทางไปยัง แชมป์ ฟุตบอลโลก ฝรั่งเศสจัดทัพเต็มสูบด้วยแผนการเล่น 4-3-3 เน้นเกมบุกแน่นอนด้วยเหมือนกันกับทุกครั้ง การใช้กองกลางทั้ง 3 คือ มาตุยดี้ และ กองเต้ และ ป็อกบา เหมือนเดิม เกมนี้เป็นเหมือนกำแพงอีกชั้นหนึ่ง สำหรับกองหลัง เพราะพวกเค้าคอยสกรีนบอล ป้องกันรักษาไม่ให้บอลผ่านไปถึงแดนหลังได้เลย ที่จริงกองกลางทั้ง 3 นั้น ตามธรรมชาติแล้วเป็นตัวรับอยู่แล้ว และมีสไตล์การเล่นดุดัน ชอบการเข้าปะทะ แย่งบอล และการสกัดการยิง การจ่าย แต่ทว่าน่าสนใจ ที่เกมนี้ พวกเค้าไม่ได้เล่นเกมรับบอย่างเดียว แต่ด้วยความสามารถเฉพาะตัวที่ดีมาก ของแต่ละคน พวกเค้าสามารถพาบอล ครองบอล และ ทำเกมออกมาจากเกมรับในเขตโทษ หน้าเขตโทษตัวเองได้อย่างดี และเนียนมีประสิทธิภาพด้วย นั่นทำให้ กองกลางสามารถครองบอลได้มากกว่า อุรุกวัย ซึ่งแม้ว่า พวกเค้าจะมีคาวานี่ เป็นกองหน้าระดับพระกาฬ และทำให้ทีมได้ประตูเข้ารอบมาตลอด แต่ว่า เมื่อกองกลางไม่สามารถส่งบอลมาถึงเค้าได้ เค้าก็แทบจะหมดประโยชน์ทันที ที่จริง กองกลางของอุรุกวัยชุดนี้ เรียกได้ว่าเป็นจุดอ่อนของพวกเค้าเลยก็ได้ เพราะว่านอกจากจะไม่มีตัวทำเกมที่โดดเด่น เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว พวกเค้าจะยังมีแต่พวกตัวรับ และตัวทำเกมแบบ Box to Box เท่านั้น นั่นทำให้ขาดความคิดสร้างสรรค์ และทำประตูได้น้อย พวกเค้ามีเตเรร่า ที่ไล่ตัดเกม และขยัน พอฟัดพอเหวี่ยงกับ กองเต้ ของฝฝรั่งเศส แต่ทว่าเค้าไม่มีเพื่อนจะช่วยต่อเติมสานาต่อ การครองบอล และทำจังหวะได้เลย ดังนั้น เมื่อเกมดำเนินมาถึงตอนที่คาวานี่บาดเจ็บและต้องถอดออกไป อุรุกวัยก็ไม่เหลือโอกาสน่ากลัวอีกเลย และเหมือนผู้เล่นจะยอมแพ้ และยอมรับชะตากรรม และในที่สุด ก็โดนฝรั่งเศสยิงนำไปก่อน และเมื่อต้องเร่งเกมตีเสมอ อุรุกวัยที่ดันสูง ก็มาโดนกริซซ์มันน์ยิงไกลปิดกล่องตกรอบไป ทำให้เห็นว่าเกมนี้ นักเตะที่หลากหลายกว่า และมีจุดเด่นทุกตำแหน่งอย่างฝรั่งเศสย่อมทำได้ดีกว่า และสมควรผ่านเข้ารอบไป ส่วน อุรุกวัยนั้นทำได้ดีที่สุดแล้ว