สำหรับการแข่งขันของฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย ในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่จัดขึ้น ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งเป็นนัดที่ 3 ของกลุ่มเอ ขอรายงานว่า การแข่งขันนี้เกิดขึ้นระหว่างที่ทีมชาติไทย U23 พบกับทีมชาติอิรัก U23 โดยผลของการแข่งขันช่วงครึ่งเวลาแรกผลออกมาปรากฏว่า ฝั่งของทีมชาติไทยเป็นฝ่ายทำประตูออกนำไปก่อนตั้งแต่ช่วงต้นเกม แต่หลังจากนั้นในนาทีแรกของเกม เกิดการที่ผู้ตัดสินได้ใช้เครื่องช่วยตัดสิน VAR ซึ่งชี้ให้ทางทีมไทยได้ลูกจุดโทษด้วย โดยมาจากจังหวะที่ นาจ ชวาน ตัวผู้เล่นของทีมฝั่งอิรักทำแฮนด์บอลในเข้ามาเขตโทษ และเป็นนาย เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ทำการสังหารประตูเข้าไปไม่พลาดกรอบประตูแบบเต็ม ๆ นำพาเอาทีมชาติไทยออกนำก่อนที่ 1-0 หลังจากนั้นก็สถานการณ์นิ่งสงบ ไม่มีใครทำคะแนนกันเพิ่มเติม จึงทำให้ต้องจบการแข่งขันที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งเวลาแรกของสองทีมนั้นด้วยสกอร์ดังกล่าวมา
มาที่เกมครึ่งหลังซึ่งเริ่มได้ไม่นาน ในนาทีที่ 48 ทีมอิรักได้ทำประตูตีเสมอมาจากจังหวะที่ นาย กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ ทำการเล่นเคลียร์บอลไม่ขาด และดันไปเข้าทาง นาย โมฮาเหม็ด เมเซอร์ ทำให้เขาสามารถยิงประตูให้ทีมอิรักไล่ตีเสมอขึ้นมาได้สำเร็จเป็นคะแนน 1-1
และหลังจากนั้นการแข่งขันก็ดำเนินต่อไปอย่างราบเรียบทั้งสองทีมไม่สามารถทำคะแนนใดใดกันได้เพิ่มเติม จึงจบเกมที่ผลของการแข่งขัน ทีมชาติไทย ทำประตูตีเสมอทีมชาติอิรักเป็น 1-1 ประตู จึงเป็นผลให้การแข่งขันครบ 3 เกม และทีมชาติไทยสามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้อย่างสำเร็จตามที่ต้องการ
โดยสำหรับกองกำลังทีมชาติไทย U23 จะยังมีคิวลงแข่งขันสนามอีกครั้งในรอบของ 8 ทีมสุดท้าย การแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 18 มกราคม ซึ่งพบกับทีมที่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มบี ณ สนามราชมังคลากีฬาสถาน ซึ่งจะมีถ่ายทอดสดผ่านทางโทรทัศน์ช่อง 7HD ช่วงเวลาประมาณ 20.15 น. เป็นต้นไป
โดยทีมช้างศึก U23 เรานี้ สามารถผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในรายการนี้ได้เป็นครั้งแรก จึงทำให้การจองบัตรเข้าชมการแข่งขันนั้น ถูกจับขายหมดเกลี้ยงในเวลาอันสั้น โดยที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ เพิ่งเปิดจำหน่ายไปเมื่อช่วงเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมาเท่านั้น
ซึ่งในการแข่งขันจากการที่ ผลงานของทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี สามารถผ่านเข้ารอบมาในฐานะรองแชมป์ของกลุ่มเอได้นั้น เป็นผลทำให้ต้องทำการย้ายมาแข่งขัน ณ สนามกีฬามหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ รังสิตแทน ซึ่งภายในสนามนี้มีความจุที่นั่งประมาณ 25,000 ที่นั่ง โดยเข้ามาเพื่อจะรอพบแชมป์กลุ่มบี แข่งขันมีขึ้นในวันที่ 18 มกราคม 2563 เวลาประมาณ 17.15 น.
วิเคราะห์ความพร้อมของทั้งสองทีม
ทีมชาติซาอุดิอาระเบีย
โดยกองพลนักเตะจากเศรษฐีบ่อน้ำมัน ผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้ในฐานะของแชมป์กลุ่มบี โดยจากผลงานชนะ 2 เสมอ 1 และยังสามารถทำการเขี่ยเอาทีมจากประเทศ ญี่ปุ่น ร่วงตกรอบไปอีกด้วย โดยพวกเขามีตัวนักเตะที่อันตรายอย่าง นาย อับดุลราห์มาน การีบ ที่มาในตำแหน่งตัวรุก ใส่เสื้อหมายเลข 7 ซึ่งเต็มไปด้วยความคล่องแคล่ว อีกทั้งเรื่องของวิสัยทัศน์ ในการผ่านบอล จนทำให้เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ เอเอฟซี ระบุชี้ว่าเขาเป็นแข้งคีย์แมนตัวสำคัญในแนวรุกทีมชาตินี้
ทีมชาติไทย
โค้ชใหม่อย่าง อากิระ นิชิโนะ ชี้ว่าไร้ปัญหาเรื่องนักเตะบาดเจ็บ พร้อมกับมีผู้แข่งขันให้เลือกใช้งานเต็มกำลัง เมื่อบรรดานักเตะที่ถูก นายโรเตชันส่งลงสนามเป็นตัวจริงสำหรับเกมเสมอกับ ทีมอิรัก 1-1 ซึ่งต่างทำผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และยังมีสิทธิ์สอดแทรกเอาสตาร์ทเป็นตัวจริงได้ในเกมนี้ทั้งนาย ทิตาวีร์ อักษรศรี ทำหน้าที่ตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค นาย พีฬาวัช อรรคธรรม ที่ทำหน้าที่แบ็คขวา, นายเจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ ที่ทำหน้าที่กราบขวา และ นายเบนจามิน เจมส์ เดวิส ในการทำหน้าที่ตำแหน่งกองหน้า หรือกองกลาง แต่เราต้องคาดการณ์ว่ากุนซือจากแดนปลาดิบคนนนี้จะใช้คู่มิดฟิลด์ที่เป็นตัวเก่งอย่างนาย กฤษดา กาแมน กับนาย สรวิทย์ พานทอง เอากลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้งหรือไม่ ทั้งหลายทั้งปวงก็ขึ้นอยู่กับการวางแผนการ และกำหนดการเล่นของโค้ช นิชิโนะ จะนำกลยุทธ์ใดในการรับมือกับทีม ซาอุดิอาระเบีย อย่างไรเท่านั้น