นักเตะระดับโลกที่น่าจับตาใน World Cup 2018 Russia ปีนี้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, Robert Levandowski
โปแลนด์ไม่ถือว่าเป็นทีมตัวเต็งของ World cup 2018 Russia ปีนี้ แต่ในทีมกลับมีนักเตะระดับโลก Superstar Player คนหนึ่งในนั้นคือกองหน้าจากเสือใต้มิวนิคโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, Robert Levandowski นั่นเอง
สารบัญ
ไปพบกับประวัติดาวดัง World Cup 2018 #10 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, Robert Levandowskiกัน
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เกิดที่เมือง วอร์ซอว์ วันที่ 21 สิงหาคม 1988 เมืองที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของยุโรปเมืองหนึ่งใกล้กับประเทศเยอรมัน ที่จริงชื่อของชาวประเทศโปแลนด์นี้ค่อนข้างไปในทางอ่านยากและสะกดยากแตกต่างกับประเทศอื่นๆพอสมควร ดังนั้น พ่อแม่ของเค้าเลยตัดสินใจตั้งชื่อ ลูกชายว่า โรเบิร์ต เป็นชื่อจริงชื่อต้นเพื่อให้ง่ายต่อชาวต่างชาติที่ไม่ใช่คนโปแลนด์จะได้ออกเสียงง่ายกว่านั่นเอง และตั้งใจที่จะเผื่อไว้สำหรับตอนที่ลูกชายดังเป็นนักเตะระดับโลกเลยซะด้วย
เลวานดอฟสกี้ก็ทำตามเป้าหมายของการตั้งชื่อของพ่อแม่ให้กลายเป็นจริงจนได้ เพราะว่าทุกวันนี้เค้ากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดังที่สุดและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในโลกแล้วนั่นเอง
เมื่อย้อนกลับไปดูตอนเล็กๆที่เลวานดอฟสกี้ ถูกเลี้ยงโตมาในตอนแรกนั้น ก็เห็นได้ชัดว่าเค้าได้เชื้อการเป็นนักกีฬาและมีดีเอ็นเอที่เอาด้านนี้จากครอบครัวนั่นเอง เพราะว่า คุณพ่อของเค้า คริสตอฟนั้นเป็นถึงนักกีฬายูโดทีมชาติโปแลนด์ และแถมยังเคยเล่นฟุตบอลในลีกดิวิชั่น 2 ของโปแลนด์กับทีมชื่อ ฮุตนิค ของวอร์ซอว์เมืองบ้านเกิดของครอบครัวด้วย ในขณะที่คุณแม่ของเค้าอิโวน่า เล่นเป็นนักวอลเลย์บอลอาชีพ แถมไม่พอพี่สาวคนโตของเค้าก็เป็นนักวอลเลย์บอลเอาอย่างแม่ด้วยอีก
คุณแม่ของเค้าเล่าว่า บ้านเราคู้ทันทีว่าเราจะเลี้ยงลูกชายคนนี้ให้โตมาเป็นนักฟุตบอล Super Star Player แน่ๆ และนั่นเป็นเหตุผลที่ เค้าตั้งลูกคนนี้ว่า โรเบิร์ต หลังจากที่ได้เดินทางไปทั่วยุโรปแล้วสังเกตุได้ว่าการมีชื่อที่จำง่ายและจดจำขึ้นใจสำหรับชนชาติต่างๆในประเทศแถบยุโรปนั้นสำคัญมาก แต่อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายและเป็นเรื่องน่าเศร้ามากที่คุณพ่อของเค้าคริสตอฟไม่สามมารถมีชีวิตอยู่ทันถึงตอนที่ เลวานดอฟสกี้ ประสบความสำเร็จให้เห็นกับตา”
ประวัติชีวิตส่วนตัว
เพราะว่าเมื่อปี 2005 เค้าก็ต้องมาจากไปก่อน หลังเสียชีวิตก่อนที่เลวานดอฟสกี้จะได้เปิดตัวเล่นฟุตบอลอาชีพกับทีมบ้านเกิดวันแรกในลีกโปแลนด์ จนทำให้การทำนายด้วยชื่อของลูกชายที่ตั้งกลายเป็นจริงที่เค้าไม่มีวันได้เห็นด้วยตัวเอง
เลวานดอฟสกี้ในตอนเด็กๆนั้นเริ่มต้นจากการเล่นกีฬาหลายชนิดมากๆ ตามแบบคนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น ยูโด วอลเลย์บอล หรือว่า แฮนด์บอลด้วย เท่านั้นไม่พอเค้าเคยโดนจับเล่นยิมนาสติกเข้าไปอีกอย่างด้วย เราจึงสังเกตได้ว่า การเคลื่อนที่และความยืดหยุ่นในตัวหลายๆแบบของ เลวานดอฟสกี้ ยามที่เค้าทำประตูนั้น ได้เป็นผลพวงมาจากการฝึกร่างกายทุกส่วนและทุกแบบด้วยกีฬาเหล่านี้ที่ครบเครื่องนั่นเอง รวมทั้งการเคลื่อนไหวของเค้าในการถอยหลังไปโหนตัวโหม่ง หรือ การค้างตัวกลางอากาศนานๆ รวมทั้งการเอาบอลยาวลงพื้นด้วย เรียกว่าปลูกฝังและได้ประโยชน์กันแบบไม่รู้ตัวเลยทีเดียว อีกบุคคลหนึ่งในครอบครัวของเค้าที่ได้มาร่วมวงเล่นกีฬากับเค้าด้วยคือ ภรรยาของเลวานดอฟสกี้ เองผู้มีนามว่า แอนนานั้น เธอก็เป็นนักคาราเต้มืออาชีพแถมยังเป็น นักโภชนาการอาหารสำหรับนักกีฬาที่ดังมาก โดยมีบล็อกส่วนตัวที่หลายๆคนรู้จัก Super Star Player คนนี้ดีแล้ว และยังเขียนหนังสือกับออก DVD มากมายมีคนติดตามเธอมากถึง 1.6 ล้านคนบนเวป Instagram.
เลวานดอฟสกี้ เองบอกว่าการมีภรรยาเป็นคนดูแลเค้าด้วยความรู้เหล่านี้ช่วยได้มากเลย เพราะว่าเธอจะคอยบอกเค้าว่า อะไรควรกิน อะไรไม่ควรกิน และยังมีวิตามินอะไรที่จำเป็นต้องรับประทานเป็นประจำด้วย เพราะว่าฟุตบอลไม่ใช่สิ่งที่แค่เห็นบนสนาม แต่ว่าเป็นชีวิตรอบๆและที่บ้านด้วยนั่นเอง
เลวานดอฟสกี้ นั้นเริ่มเล่นฟุตบอลที่แรกกับสโมสร เอ็มเคเอส วาร์โซเวียของเมืองเกิดวอร์ซอว์ ตอนยังเป็นเด็กและเล่นกับทีมนี้นานถึง 7 ปีเลยทีเดียว หลังจากนั้น เค้าย้ายไปอยู่กับ ทีมชื่อเดวต้า วอร์ซอว์เมืองเดียวกัน และได้เลื่อนขึ้นไปเล่นชุดจริงที่นี่เอง และยิงไปได้จุ๋มจิ๋มก่อน 4 ลูก และหลังจากนั้น ในปี 2006-2007 เค้าได้เล่นในกลลีกระดับชั้น 3 ของโปแลนด์ กับทีมชื่อ ซนิคส์ ปรุซคอฟ ซึ่งเค้ายิงไปทั้งหมด 15 ประตูจนได้ช่วยให้ทีมของเค้าเลื่อนขั้น และหลังจากนั้นเค้ายังตามไปยิงในดิวิชั่น 2 หลังเลื่อนขั้นมาทำให้ยิงไปมากเหมือนเดิม 21 ประตู คราวนี้ได้ครองแชมป์ดาวยิงของดิวิชั่น 2 ไปเลย และนั้นเป็นครั้งแรกที่เค้าได้รางวัลดาวยิงสูงสุดของลีก โดยหารู้ไม่เลยว่าหลังจากนั้นเค้าจะได้รางวัลนี้จนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลยด้วย
เลวานดอฟสกี้ย้ายไปเล่นให้กับทีมที่ใหญ่ขึ้นอย่าง เลช พอชนัน ในปี 2009-2010 ซึ่งที่นี่แม้ว่าจะเป็นลีกสูงสุดแล้วเค้าก็ยังยิงไปได้จนเป็นดาวยิงลีกสูงสุดของลีกตามคาดอีกด้วยจำนวน 18 ประตูด้วยกัน ทำให้ค่าตัวของเค้าที่เลชจ่ายไปแค่ 1.5 ล้านนั้นดูนิดหน่อยไปเลย นอกจากนั้นก่อนจะได้มาลงเอยที่นี่ นายหน้าของเค้าเคยเสนอเลวานดอฟสกี้ ให้กับทีมในเสปนชื่อ กิฆอน หลังจากที่พวกเค้าได้ย้ายขึ้นมาเล่นกับลาลีกาสูงสุดของเสปนเช่นกันในรอบหลายสิบปี แต่กลายเป็นว่าพวกเค้าปฎิเสธไม่ได้อยากได้เลวานดอฟสกี้ ด้วยตอนนี้คงเสียใจไปเลย นั่นทำให้เค้าลงเอยกับทีมเลช พอชนันแทน และเมื่อเค้าลงสนามนัดเปิดตัวก็ทำประตูชัยให้กับทีมชนะไปด้วย และแม้ว่าในปีแรกเค้าจะได้เป็นแค่รองดาวซัลโว เพราะว่ายิงไป 18 ลูกใน 42 เกมแต่ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตามเค้ายังยิงต่อไปถึงปีถัดไปซึ่งยิงจนทำให้ทีม พอชนันได้แชมป์ลีกสูงสุดในปี 2009-2010 และทีมได้ชนะเอาถ้วยรางวัลลีกสูงสุดไปครองได้ในที่สุด
ประสบความสำเร็จกับสโมสร
หลังจากปีนี้เองที่ 2010 เป็นปีที่เลวานดอฟสกี้เป็นปีที่เค้าจะจดจำเพราะว่าเค้าย้ายมาเล่นให้กับทีมนอกประเทศเป็นครั้งแรก และทำให้ผู้คนแฟนบอลทั่วไปในโลกมีโอกาสได้เห็นแวว Super Star Player โฉมหน้าและถ่ายทอดสดวิธีการยิงประตูของ เลวานดอฟสกี้ เป็นครั้งแรกเมื่อ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ซื้อเค้าไปเล่นให้กับยอดทีมจากบุนเดสลีกา เยอรมัน ด้วยราคาไม่แพงเพียง 4.5 ล้านนั้นเอง และที่นีเองที่เค้าได้ถ้วยรางวัลที่ยิ่งใหญ่อย่าง แชมป์ลีกสูงสุดบุนเดสลีกากับทีมถึง 2 ฤดูกาลติดต่อกัน ไม่พอยังเป็นดาวยิงสูงสุดของฤดูกาลที่เริ่มคุ้นเคยเบื่อๆแล้วไปควบด้วย แถมในปี 2013 ที่เค้ายังช่วยดอร์ทมุนด์เข้าไปเล่นฟุตบอลยุโรปไม่พอ แต่ยังเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไปแต่พลาดคว้าแชมป์ แต่ก็ยังยิงในบอลยุโรปจนเป็นรองดาวซัลโว เพียงแค่ชายที่ชื่อ คริสเตียโน โรนัลโดนั่นเองเพียงผู้เดียว
ถึงแม้ว่าในปีแรกที่เค้าย้ายมา 2010 นั้นเค้ายังไม่ได้เริ่มต้นด้วยการเป็นตัวจริงก่อนแต่ก็ยิงประตูนัดเปิดตัวไปได้ จนกระทั่งในปีต่อมานี้เอง 2011-2012 ที่ได้ความบังเอิญและโอกาสเมื่อ ลูคัส บารออส กองหน้าตัวจริงของดอร์ทมุนด์ในตอนนั้น เจอกับปัญหาอาการบาดเจ็บขึ้นมาดื้อๆ ทำให้เค้าได้รับการเลือกให้ลงสนามเป็นตัวจริงหลายเกมติดต่อกัน และเป็นตอนนี้นี่เอง ที่เค้าได้ลงต่อเนื่องจนทำให้มีความมั่นใจและยิงประตูได้ต่อเนื่องกันไม่ว่าเป็น เกมเล็ก เกมใหญ่ หรือ ทั้งยิงและจ่ายมากมาย เค้าเล่นกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างเข้าขามากด้วย ไม่ว่าจะเป็น ชินจิ คากาวะ หรือว่า มาร์โก รอยส์ และมาริโอ เกิร์ตเซ่ ที่ต่างช่วยกันพาทีมไล่จี้หัวทีมอย่างบาร์เยิร์น จนกระทั่งไล่ทำแต้มทันในเกมเจอกับ ยำฮัมบูร์กไป 5-1 จนในที่สุดก็ไล่แซงได้ในเกมสุดท้ายเจอกับไฟร์บวร์ก และคว้าแชมป์ลีกสูงสดเยอรมัน ชนิดที่มิวนิคไม่มีคู่แข่งขึ้นมาท้าทายแบบนี้มานานแล้ว เลวานดอฟสกี้เองก็ได้รางวัลที่บ้านเกิดในปีนี้ด้วย หลังจากที่เล่นอย่างดี และได้รางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของชาวโปแลนด์ในปีนี้ด้วย และเค้าก็เดาได้ว่าได้รางวัลดาวซัลโวในปี 2012 นั้นไปด้วยจำนวน 22 ประตูมากที่สุดในลีก โดยไม่มีจุดโทษเลยสักลูกและยังทำแอสซิสต์ไปอีก 6 ลูก และในปีเดียวกันนั้นเองที่ดอร์ทมุนด์ของเค้าเข้าชิงบอลถ้วยอย่าง เดเอฟเอ โปคาลและต้องชิงกับ บาร์เยิร์นทีมเดิมไปอีก แต่ก็ยังย้ำแค้นได้โดย เลวานดอฟสกี้ ระเบิดแฮททริคไป ช่วยให้ทีมชนะ 5-2 เหนือบาร์เยิร์นไปได้ และเป็นครั้งแรกของสโมสรที่ได้ดับเบิ้ลแชมป์ด้วย นอกจากนั้น เค้าก็เป็นดาวซัลโวเล็กๆน้อยในบอลถ้วยไปอีกหลังยิงไป 7 เม็ดจาก 6 นัดเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าสโมสรได้แชมป์และความรุ่งเรืองจากปีที่เปิดตัวอย่างก้าวกระโดดกับทีมเสือเหลืองนั่นเอง
เลวานดอฟสกี้เล่นให้กับทีมดอร์มุนด์อีกปี 2013-2014 ด้วยการเปิดตัวได้แชมป์บอลถาดตอนก่อนเริ่มเล่นของฤดูกาล โดยที่ต้องมาเล่นกับบาร์เยิร์นอีกแต่ก็ไม่มีปัญหา เมื่อเค้าช่วยให้ทีมเอาชนะย้ำแค้นไปได้อีก และได้แชมป์บอลถาด เยอรมัน ซุปเปอร์ คัพไปครองเพิ่มอีกถ้วยนึงของเค้า
และในบอลยุโรปที่เล่นกับ ดอร์ทมุนด์ปีแรกนั้น เค้าก็พาทีมเค้ารอบไกลของแชมป์เปี้ยนลีกได้ลึกถึงก่อนตกรอบด้วยน้ำมือทีมราชัดชุดขาวไป
ทำให้ปีสุดท้ายของเค้ากับเสือเหลืองก็ยังเป็นดาวซัลโวอยู่ โดยในลีกยิงไป 20 ลูกสูงสุด และนับรวมทุกอย่างแล้วจบฤดูกาลเค้ายิงไป 28 ประตูจากการลงเล่น 48 เกมบอกลาเสือเหลืองอย่างงดงามด้วย
ในช่วงที่เลวานดอฟสกี้ เล่นกับดอร์ทมุนด์นั้น นับว่าเค้าต้องขอบคุณและติดหนี้บุญคุณกับโค้ชเจอร์เกน คลอปป์ซึ่งยังไม่ได้ย้ายมาหงส์แดงทีในตอนนั้น ที่แจ้งเกิดได้พร้อมๆกันในชุดแชมป์ 2 ปีติด เพราะว่าเป็นคลอปป์เองที่ฝึกสอนเค้าอย่างดีและค่อยๆเจียระไนเค้าให้กลายเป็นดาวยิงระดับโลก แม้ว่าจะเล่นกับโค้ชชั้นดีมากมายก็ตาม โดย เลวานดอฟสกี้ เล่าว่า คลอปป์เป็นคนที่ปลูกความเชื่อมั่นในตัวเองให้กับเค้า และการสอนก็ไม่ธรรมดาด้วย ยกตัวอย่างเช่น ช่วง 4 เดือนแรกที่เค้ามาเล่นให้ คลอปป์จะจัดการซ้อมพิเศษที่ตัวเองจะไปเล่นกองหลังเหมือนสมัยนักเตะเพื่อดวลเดี่ยวกับ เลวานดอฟสกี้ ให้ผ่านเค้าไปทำประตูให้ได้ โดยมีการวางเดิมพันกันด้วย
ตอนแรกๆเค้าเล่าว่าก็ไม่ค่อยเอาชนะคลอปป์ได้เท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อได้รับการอบรมนานๆเข้า เค้าก็เริ่มเอาชนะและผ่านคลอปป์ไปยิงได้แล้ว เดิมพันเกมละ 50 ยูโรจึงทำให้เค้าได้เงินชนะมามากว่า และเป็นการฝึกซ้อมสำคัญชนาดที่เลวานดอฟสกี้ เรียกว่าเป็นวิธีที่ทำให้เค้าเป็นนักเตะแบบที่เป็นทุกวันนี้เลย เพราะว่าแม้จะย้ายไปเล่นกับบาร์เยิร์นแล้วเค้าก็ไม่ได้เปลี่ยนการเล่นเท่าไหร่เลย
เลวานดอฟสกี้ ย้ายไปเล่นกับทีมคู่แข่งหลังจากนั้นในปี 2014-2015 แบบเซ็นต์สัญญาล่วงหน้า และเป็นแบบการย้ายที่ไร้ค่าตัวด้วย เพราะว่าสัญญาของเค้ากับเสือเหลืองนั้นหมดลงนั่นเอง และก็เช่นเดียวกัน เค้ายังทำได้ดีอีก เพราะว่าใน 3 ปีแรกที่มา เค้าก็คว้าแชมป์กับทีมเสือใต้ได้เลย 3 ปีรวดโดยมีตัวเองเป็นหัวหอกนำทัพเหมือนเดิม และมีชื่อในทีมประจำปียอดเยี่ยมของบุนเดสลีกาทุกปีด้วย และยังนำเป็นด้วยดาวซัลโวระดับ 30 ลูกในฤดูกาลด้ว แถมยังได้รับการขานชื่อให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำปีของเยอรมันปี 2016-2017 และมีชื่อในทีมยูฟาแชมป์เปี้ยนลีกประจำปีถึง 2 ปีหลังสุดด้วย
เลวานดอฟสกี้ ยิงรวมไปเมื่อเล่นกับทุกทีมรวมกันในเยอรมันมากถึง 150 ประตู แถมยังมาถึงจุดนี้เร็วกว่าจำนวนปีที่ตำนานต่างชาติคนอื่นๆเคยเล่นในลีกสูงสุดอีกด้วย นอกจากนั้น เค้ายังทำลายสถิติมากมายในลีก เช่น เป็นคนที่ยิง 5 ประตูในเกมเดียวเร็วที่สุด ตอนเจอกับ โวล์ฟบวร์ก คือ 9 นาทีเหลือเชื่อมาก และเร็วที่สุดในยุโรปด้วย และยังยิงห้าเม็ดได้เร็วที่สุดเท่าที่บอลยุโรปเคยเก็บตัวเลขมาเลยทีเดียว
ในระดับยุโรปแล้ว เลวานดอฟสกี้ ยิงประตูมากขนาดที่ว่าเมื่อนับตั้งแต่ปี 2011-2012 ไม่มีใครยิงมากกว่าเค้ายกเว้น 2 คนเทพที่รู้ๆกันคือเมซซี่และโรนัลโดนั่นเอง และหากเราดูกันที่ค่าตัวเลขของการทำประตูจากโอกาสเค้าอยู่เหนือกว่าดาราหลายคนเช่น 0.86 ของเค้ามากกว่าหลุยส์ ซัวเรสที่ได้แค่ 0.84 หรือ โอบาเมยองที่ 0.83 และ แฮรรี่ เคน 0.79 ด้วย
เค้ายังเล่าอีกด้วยว่า ตอนเล่นกับดอร์ทมุนด์นั้นความกระหายในการยิงของเค้ามีมากกว่าทุกที่เพราะว่า เค้าต้องเล่นคู่หรือแย่งชิงตัวจริงกันกับ โอบาเมยองที่ย้ายมาจากฝรั่งเศสเช่นกัน ทำให้ทั้งคู่เป็นเหมือนคู่แข่งแย่งตำแหน่งที่คอยกระตุ้นกันและกันให้ยิงเยอะกว่าและผลักดันให้ตัวเองเก่งกว่าอีกฝ่ายนั่นเอง
เลวานดอฟสกี้สารภาพว่าหลังจากย้ายมาบาร์เยิน 3 ปีหลังนั้นการแข่งขันกับโอบาเมยองหายไปและเค้าต้องหาอะไรมาแทนกระตุ้นตัวเองในการยิงประตูแบบที่มีคู่แข่งให้ได้
แต่ว่าการมาเล่นในมิวนิคก็ทำให้เค้า ได้เล่นกับโค้ชสุดยอดอีกคนคือ เป้ป กวาดิโอล่า ซึ่งเค้าสั่งให้นักเตะเสือใต้เล่นกันในระบบที่เรียกว่า “”juego de posicion”” จากเสปน แต่เค้าก็ยังยิงได้มากอยู่ดีเมื่ออยู่บนแผนการใหม่ ซึ่งทำให้ทีมจากมิวนิคเล่นลื่นไหลน่ากลัวเหมือนเครื่องจักร และยังช่วยให้เค้าคิดใหม่ทำใหม่ได้ว่า แม้ยิงไปลูกนึงแล้วทุกวันนี้ ก็ไม่ควรหยุดแต่ต้องคิดในหัวไปว่าต้องยิงลูกที่สองต่อให้ได้ด้วย และเมื่อรวมๆกันแล้วอาจจะได้มากถึง 10 ประตูเยอะกว่าเดิมด้วย
เลวานดอฟสกี้ในทีมชาตินั้นก็โดดเด่นไม่แพ้กันเลยเมื่อเค้าได้กลายมาเป็นนักเตะที่ยิงในสีเสื้อโปแลนด์ได้มากถึง 50 ลูกคนแรกในประวัติศาสตร์เลย ทำให้ทีมไปเล่นในบอลโลกที่รัสเซียเรียบร้อยแล้ว โดยที่ยิงไปในรอบคัดเลือกปีนี้มากถึง 16 ลูกด้วยกัน ตอนนี้เค้าติดทีมชาติไป 90 เกมแล้ว จนทำให้ทั้งโปแลนด์ถือว่าเค้าเป็นบุคคลสำคัญทีเดียว และแน่นอนเค้าจะเป็นอาวุธหนักให้กับโปแลนด์ใน World cup 2018 Russia ปีนี้แน่
ทีมชาติ
โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้, Robert Levandowski ติดทีมชาติตอนอายุเริ่มมากแล้ว โดยเริ่มจากชุดเยาวชนอายุต่ำกว่า 21 ปีและเล่นไม่มากเพียง 3 เกมเท่านั้น แต่ทว่าตอนติดทีมชาติชุดใหญ่เค้ากับทำผลงานได้อย่างสุดยอด ติดทีมไป 85 เกม ยิงไปกว่า 40 ลูก สถิติของทีมเลย และยังเป็นกัปตันเสมอๆ ที่โปแลนด์ได้เข้ารอบ World cup 2018 Russia เรียกได้ว่าเพราะประตูมากมายของเค้าเลยแท้ๆ
วิเคราะห์การเล่น
เลวานดอฟสกี้ เป็นนักเตะ Super Star Player ที่มีความสามารถพิเศษในการยิงที่แม่นยำ ทั้งเท้า 2 ข้างและลูกโหม่งด้วย นี่ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าเค้าเป็นนักเตะที่ครบเครื่องมากที่สุดของเกมฟุตบอลในยุคปัจจุบันเลยทีเดียว พูดง่ายๆคือว่ากันว่า เค้าเป็นนักเตะที่มีทักษะและสิ่งจำเป็นทุกอย่างที่ต้องมีเพื่อจะเล่นบทกองหน้าหมายเลข 9 หรือหน้าเป้าได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็น ความสูง ความแข็งแกร่ง และความเร็ว บาลานซ์ และความฉลาดในการเคลื่อนไหว ถึงแม้ว่ากองหน้าเป้าหลักของเค้านั้นมีหน้าที่แค่ ตัวคอยจบสกอร์หรือว่ารอเข้าฮอร์สเข้าเป้าเท่านั้นบริเวณเขตโทษ แต่ว่า เนื่องจกการยืนตำแหน่งที่ดีมากของเค้านั้น รวมกับการยิงจังหวะแรก และลูกกลางอากาศที่ดี ทำให้เค้า เป็นตัวพักบอลได้ โดยหันหลังพิงกองหลังและประตูคอยเอาบอลลง และเชื่อมการเล่นให้กับคนอื่นๆในทีมได้ดีด้วย
นั่นทำให้เค้าเล่นกองหน้าแบบชนิดอื่นได้ด้วย คือ กองหน้าแบบหน้าเพียวๆและหน้าแบบตัวต่ำคอยลงมาเชื่อมเกมและสร้างพื้นที่ให้กับตัวรุกคนอื่นบุกได้ด้วย เพราะว่าเค้าเมื่อไม่มีบอลก็ยังทำงานหนักมาก โดยการวิ่งไล่บอล ตัดบอล และบีบเอาจากองหลังคู่แข่งได้อย่างดี
แต่ที่สำคัญสำหรับเค้าอีกอย่างคือ จิตใจที่แข็งแกร่งและ ความฉลาดในสมอง ที่ทำให้เค้าเล่นได้ดีในเกมสำคัญๆที่กดดันได้ตลอด และรักษาความนิ่งของฟอร์มการเล่นให้ได้ดีต่อเนื่องไม่หล่นง่ายๆ ทำให้ เค้าไม่เพียงเป็นกองหน้าที่มีพรสวรรค์ แต่ที่หลายคนบอกว่าฟอร์มการเล่นมักไม่ได้มาพร้อมกัน อาจจะไม่จริงสำหรับ เลวานดอฟสกี้ เพราะว่ามีทั้งพรสวรรค์ทักษะฝีเท้าและยังรักษาฟอร์มต่อเนื่องจนแทบไม่มีช่วงฝืดประตูได้เลยตลอดหลายปีมานี้
การเล่นของเค้าปรับได้ให้เข้ากับทีมเสมอดังเห็นได้จาก ตอนย้ายมาเล่นกับมิวนิคนั้น กวาดิโอล่ามีความแตกต่างกับตอนอยู่กับคลอปป์เพราะว่าที่เก่าการบุกทุกอย่างของเสือเหลืองจะผ่านเค้าหมดเลยบริเวณกลางสนาม แต่ว่ากับทีมใหม่ เป้ป นิยมจะใช้หน้าแบบหลอกที่เรียกว่า ฟอลซ์ไนน์มาก่อน เช่น มันซูคิช แต่ว่าพอเค้าย้ายมา ก็มีการปรับให้ใช้ปีกตัวสำรองที่แทน ร็อบเบินและริเบรี่ที่เจ็บอยู่ อย่าง คอสต้า และ โคแมน ทำเกมและกระชากให้เปิดและครอสมาหาหน้าเป้าฉายเดี่ยวรอจบสกอร์อย่างเลวานดอฟสกี้ เล่นได้อย่างเข้าขา และยังช่วยกันเล่นช่วยกันยิงได้มากมาย โดยเฉพาะเมื่อมีกองหน้าตัวต่ำมาช่วยแบ่งเบาภาระอีกคนอย่าง มุลเลอร์ที่ชอบมาเล่นเป็นตัวต่ำรองลงไปจากเค้า ทำให้ เลวานดอฟสกี้ บอกว่า ก่อนที่เคยยากมากตอนปะทะกับหลัง 4 คนและกลางรับอีก 2 แทบจะขยับไม่ได้แต่พอมีเพื่อนๆมาช่วยแล้วเค้าประสานงานกันง่ายขึ้น และทำให้เค้ากลับมาเป็นศูนย์รวมของเกมบุกอีกครั้ง